13 สิ่งที่ชาว backpacker ควรทำก่อนเดินทาง



1.กำหนดงบประมาณ

แน่นอนว่าเราต้องรู้งบประมาณในตัวเองก่อนว่า เต็มที่แล้วนั้น เราจ่ายได้เท่าไร บางคนบอกกำหนดจุดหมายไปก่อนเงินที่หลัง แต่เราว่าสิ่งสำคัญจริงๆ ควร คำนึกถึงงบประมาณก่อน บางคนอาจจะอยากจ่ายเต็มที่เอาแบบหรูหรา แต่ถ้าจ่ายเต็มเหนี่ยวแล้วต้องมากินมาม่าหลังจบทริปนี้ไม่เวิร์คเลยนะ

2. กำหนดจุดหมาย

เมื่อเรารู้ว่าตัวเรามีงบเท่าไร ก็เริ่มหาเป้าหมายออกเดินทางกันได้เลย ขอยกตัวอย่างผู้เขียนเอง ผู้เขียนมีงบจำนวนหนึ่ง ผู้เขียนอยากไป ต่างประเทศ ผู้เขียนประเมินแล้วว่าถ้าไปทางฝั่งยุโรป มันจะบีบการใช้จ่ายเกินไป ผู้เขียนเลยหาจุดหมายที่ ผู้เขียนสามารถไปได้ แบบไม่ต้องพะวงค่าใช้จ่ายมากแทน
การเลือกจุดหมาย ก็คำนึงถึง เงิน และ ความพอใจ หากรู้ว่าเงินสามารถไปแต่ในวงจำกัดและไม่มีจุดหมายในฝันหรือประทับใจ อย่ารีบร้อน ยืดเวลาออกไปสักนิดหาเวลาเก็บเงินเพิ่มแล้วค่อยไป เพราะถ้าใจคุณไม่ชอบสถานที่นั้นจริงๆ คุณอาจไม่ Happy กับเรื่องราวต่างๆที่คุณเจอระหว่างทริป

3. ลองเปลี่ยนฤดูกาล

สำหรับผู้เขียน ผู้เขียนไม่ชอบฤดูหนาว เพราะผู้เขียนจะมีอาการเย็นจมูก หงุดหงิด ฟื๊ดฟั๊ดๆ มือเย็น ปากแห้งบ่อยๆ เพียงแค่อากาศ เริ่มเย็นในไทย โพรงจมูกก็เย็นจนหงุดหงิดแล้ว แต่! เราจะมาเที่ยวแต่ในหน้าร้อนๆ อย่างเดียวได้ยังไง เคยไหมละ ในสถานที่บางสถานที่ หน้าร้อนให้ความงามอีกแบบ หน้าฝนก็งามอีกแบบ หน้าหนาวอาจจะสวยกว่าหน้าไหนๆ ก็ได้ ลองเปลี่ยนฤดูกาลเที่ยวดู
มีคนบอกเราว่า สถานที่เดิม แต่เวลาเปลี่ยน ฤดูเปลี่ยน สีใบไม่เปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ใครจะรู้เราอาจจะได้เห็นสิ่งสวยงามที่เราไม่คิดจะมีโอกาสได้เห็น ได้สัมผัสมาก่อน เลยก็ได้

4.เลือกไปเมืองไม่ฮิต ไม่ดังธรรมดาๆ ดูบ้าง

สถานที่สวยๆ ไม่จำเป็นจะต้องเป็น สถานที่ดังๆ บูมๆ คนไปเยอะๆ แต่ใช่มันไม่บูม เราก็ต้องศึกษาข้อมูลของจังหวัด หรือประเทศนั้น แบบลงลึก ละเอียดยิบหน่อย ข้อดีของการค้นหาสถานที่ เมืองธรรมดาๆ เล็กๆ พบ เจอ และไปลองสัมผัสดูนั้นเราอาจจะพบสถานที่ใหม่ที่สวยงามไม่แพ้ สถานที่ดังๆ อื่นๆ แล้วถ้าระดับความสวยมันเท่ากัน แล้วมันยังไม่บูมโชคชั้นที่ 2 คืออะไรละ คนไม่เยอะไง จะถ่ายมุมไหนรัวชัตเตอร์ไปเลยไม่ต้องมารอคนออกจากเฟรมไป
ประสบการณ์ผู้เขียนเองเคยพบเจอสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครไปแต่สวยไม่แพ้ที่อื่นๆ ตามเพจดังๆ แล้วคนในสถานที่นั้นเขาก็บอกว่า มุมนั้นก็สวยลองไปซิ มุมนี้สวย พอเราถ่ายเสร็จ เขาถามเราว่าสวยสู้สถานที่อื่นดังๆ ในจังหวัดของเขาได้ไหม แต่ไม่ต้องโฆษณาหรอก เขากลัวกลุ่มธุรกิจจะเขามาเยอะแล้วธรรมชาติจะหายไป
ไม่จำเป็นต้องไปเมืองใหญ่ๆ สถานที่ฮิตๆเห็นมั้ย กลับมาอัพรูป เพื่อนถามอีกไปไหนมาทำไมสวยจัง ทำไมไม่เคยได้ยิน หามันเจอได้ยังไง หาข้อมูลเก่งจัง เจ๋งว่ะ น่าน!!! แค่หาสถานที่ใหม่ๆ เจอก็กลายเป็นคนเจ๋งในสายตาเพื่อนไปเลย

5. นอนแบบชาวบ้านๆเรียบๆ

โรงแรม ห้าดาว หลบไป อยากสัมผัสอะไรใหม่ๆลองที่พักท้องถิ่น ธรรมดาๆบ้าง ถ้าให้ยกตัวอย่างนอนบ้านๆในไทย คงนึกถึง เกาะพยาม ตอนเราไปเราพัก เรียกว่าบังกะโลดีมั้ย? คือมันเป็นแบบ บ้านไม้มุมจาก ไม้เป็นซี่ๆลมเข้าเย็นสบายจนถึงหนาว และต่อให้ปิดประตูหน้าต่างก็ยังคงเห็นทิวทัศน์ด้านนอก ตามริ้วรอยต่อของไม้ที่ฝาบ้านอยู่ อารมณ์เหมือนกลับไปนั่งรอในบ้านที่เขียงนา เพื่อรอปู่กับย่าวิดน้ำออกจากนา คนต่างจังหวัดอาจพอนึกภาพบ้านตามเขียงนาที่เขาปลูกมาไว้เพื่อนอนเฝ้านา มีครัวนิดหน่อย มีห้องน้ำตีจากไม้ธรรมดาๆนี้ละ (ห้องน้ำก็มีช่วงซี่ๆอาบไประแวงไป แต่ก็คิดว่ามันแอบดูไปมันก็เอาไปไม่ได้ช่างมัน)
เอาจริงๆนะ ที่พักแบบชาวบ้านๆแบบนี้ นอกจากจะราคาถูกแล้ว คนดูแลที่พักส่วนมากจะเป็นกันเอง ใจดี น่ารัก แล้วตอนเราไปเกาะพยามพี่เจ้าของที่พักเรียกไปกินข้าวฟรีอีก อิ่มจังตังค์อยู่ครบอีก
AdvertisementReplay Ad

6.กินให้ง่ายเข้าไว้

อย่าเลือกเยอะ กินง่ายๆ ไปไหนจะได้ไม่อดนะคะ เมื่อก่อนเราไม่กินปลาร้า ก็มันสีดำๆ น่ากลัวอะ มีอยู่ครั้งหนึ่งมันไม่มีอะไรให้กินนอกจากปลาร้า มีแต่เมนูปลาร้า เลยกิน คุณพระ!!! อร่อยอะ แล้วหลังจากนั้นก็ชอบมาก น้ำพริกปลาร้า ส้มตำปลาร้า กินหมด แล้วอีกอย่างนะ ไปไหนก็แล้วแต่มันต้องมีอาหารท้องถิ่นซึ่งบางอย่างมันก็แปลกใหม่สำหรับเราใช่ไหม ลองดู ลองกินให้มันรู้ว่ามันเป็นยังไง ไหนๆ มาแล้วลองให้ครบทุกอย่างไปเลย

7.คุยให้เก่ง

คนอัธยาศัยดีไปไหนใครก็อยากคุยด้วย อยากช่วยเหลือ หากคุณรู้จักบล็อคเกอร์ชื่อดัง คุณมิ้นท์ I Roam Alone คุณจะรู้เลยว่าการคุยเก่ง อัธยาศัยดีมันน่ารักขนาดไหน

 8. เลือกการเดินทางให้ครบทุกรูปแบบ

ทริปนี้อาจจะไปรถทัวร์ ทริปหน้าอาจจะไปรถไฟ ต่อไปอาจเป็นเครื่องบิน มันจะได้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ลองมันให้ครบไปเลย

 9. ใช้เวลาให้คุ้มค่า นอนดึกๆไปเลย

ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า หลับตาเมื่อหมดแรง จะได้ไม่มารู้สึกเสียดายเวลาที่เสียไปหลังจบทริป มาทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม! กลางวันและกลางคืน จัดหนักจัดเต็ม ไปให้ครบ เอาให้กลับมาใครบอกอยากไป ที่นั่นที่นี้ของจังหวัด ของประเทศนี้จัง แล้วคุณก็ลุกขึ้นบอกเขาไปเลยว่า จังหวัดนั้นประเทศนั้นฉันไปมาครบแล้ว อดนอนแค่นี้เรื่องเล็ก

10. ตื่นให้เช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้

บอกเลยผู้เขียนนี้ หอพักกับที่ทำงานใกล้กันมาก ทำงานเวลา 08:30 น. ตื่น 08:00 น. ไม่แต่งหน้าวาดไปแต่คิ้ว แต่เวลาไปเที่ยว ตื่นตั้งแต่ตี5 มาแต่งหน้าบ้าง มาดูพระอาทิตย์ขึ้นบ้าง ตื่นได้สบายมาก อย่างที่บอก มันต้องใช้เวลาให้คุ้มที่สุดอะ

11.ปิดโซเชียลบ้าง

เอาจริงมันยากสำหรับบางคน ลองดูหน่อย อย่างผู้เขียนนี้เปิดเน็ตเฉพาะเวลาจะใช้ ส่วนใหญ่เวลาเที่ยวจะจมไปกับการถ่ายรูปโงหัวไม่ขึ้นเลยอะ เลยทำข้อนี้ได้ ลองกันดูหน่อยไหม อยู่กับตัวเองบ้างอยู่กับโลกความเป็นจริงตรงหน้าบ้างเพื่อซึมซับบรรยากาศของจริง ของแท้เนอะ

12.ซึบซับบรรยากาศ ธรรมชาติตรงหน้าบ้าง

แน่นอนว่าเวลาเราไปเที่ยวเราก็เก็บรูปให้มากๆ เนอะ แต่บางทีคุนค่าความทรงจำที่ดีแก่ใจ คือการจดจำเรื่องราวเหล่านั้นด้วยสองตา ด้วยหัวใจของเราอย่างแท้จริงเนอะ คุณจะรู้ว่าค่าของการเดินทางจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง ถ่ายเสร็จอย่าเพิ่งมูฟเปลี่ยนสถานที่ไป นั่งชิวๆมองวิวไปสักพัก คุณค่าของการเดินทางที่แท้จริงมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก

13.บันทึกความทรงจำใส่ไดอารี่

บันทึกไว้จะได้ไม่ลืม เวลาแย่ๆ กลับมาอ่านเชื่อสิว่าสิ่งนี้มันทำให้เรายิ้ม หรือตอนแก่ไปเราอาจจะเป็นอัลไซเมอก็ได้จะได้ให้ลูกหลานมาอ่านให้เราฟังว่าครั้งหนึ่งเราเคยเจ๋งมากแค่ไหน
หรือบางคนอาจจะส่งโปสการ์ดมาถึงตัวเองก็ได้นะ แต่ว่าไม่รู้จะถึงมือเราเมื่อไรนะ จบทริปไปแล้วจนเริ่มทริปใหม่โปสการ์ดก็อาจจะยังมาไม่ถึงก็เป็นได้
https://www.sanook.com/travel/1406867/


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม